อินซูลินเป็นฮอร์โมนที่ตับอ่อนสร้างขึ้น มีหน้าที่นำน้ำตาลในเลือดไปยังเนื้อเยื่อต่างๆของร่างกาย เพื่อสร้างเป็นพลังงาน อินซูลินนั้นนอกจากตับอ่อนเป็นผู้ผลิตแล้ว ยังสามารถสกัดจากตับอ่อนของหมูและวัว และการสังเคราะห์โดยวิธีพันธุกรรม สร้างอินซูลินที่เหมือนกับอินซูลินของมนุษย์ ซึ่งมีโอกาสแพ้น้อยกว่าและนิยมมากกว่าอินซูลินที่มาจากสัตว์

อินซูลินสามารถแบ่งได้หลายชนิด ตามระยะเวลาที่ออกฤทธิ์ คือ
ชนิดออกฤทธิ์เร็วมาก มีลักษณะใส ไม่มีสี ออกฤทธิ์ในเวลา 10-15 นาที ออกฤทธิ์สูงสุดที่ 1-3 ชั่วโมง และออกฤทธิ์นาน 3-5 ชั่วโมง ใช้ฉีดเมื่อต้องการลดระดับน้ำตาลในเลือดหลังรับประทานอาหารมื้อนั้นๆ
ชนิดออกฤทธิ์เร็วและสั้น มีลักษณะใส ไม่มีสี ออกฤทธิ์ในเวลา 30-60 นาที ออกฤทธิ์สูงสุดที่ 2- 4 ชั่วโมง และออกฤทธิ์นานประมาณ 5-7 ชั่วโมง ส่วนใหญ่จะใช้ฉีดก่อนรับประทานอาหาร 30 นาที เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลหลังอาหารหรือเพื่อลดน้ำตาลในเลือดให้ลงอย่างรวดเร็วเนื่องจากมีระดับน้ำตาลที่สูงมากๆ
ชนิดออกฤทธิ์ปานกลาง ลักษณะเป็นสารละลายขุ่น ต้องเขย่าก่อนใช้เพื่อให้เข้ากัน ออกฤทธิ์ในเวลา 2-4 ชั่วโมง ออกฤทธิ์สูงสุดวที่ 6-12 ชั่วโมง และออกฤทธิ์นานประมาณ 18-24 ชั่วโมง ใช้เป็นอินซูลินหลักในการรักษาโรคเบาหวาน
ชนิดออกฤทธิ์ยาว มีลักษณะใส ไม่มีสี ออกฤทธิ์ในเวลา 2ชั่วโมง ไม่มีระยะที่ออกฤทธิ์สูงสุด และออกฤทธิ์นาน 25 ชั่วโมง ใช้สำหรับฉีดเพื่อให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นในปริมาณหนึ่งตลอดทั้งวัน และป้องกันระดับน้ำตาลตก
ชนิดผสม ลักษณะเป็นสีขุ่น เป็นผสมระหว่างอินซูลินออกฤทธิ์เร็วกับอินซูลินชนิดออกฤทธิ์ปานกลาง ในอัตราส่วนต่างๆ ต้องก่อนใช้ทุกครั้ง
อาการที่เกิดจากปริมาณของอินซูลินไม่สมดุลกับน้ำตาล ในกรณีที่น้ำตาลในเลือดต่ำ เนื่องจากมีการใช้อินซูลินมากเกินไป อาจทำให้ปวดศีรษะ เหงื่อออก ตัวเย็น ใจสั่น อ่อนเพลีย ชาริมฝีปาก หงุดหงิด การมองไม่ชัดเจน และในกรณีที่น้ำตาลในเลือดสูง เนื่องจากปริมาณอินซูลินน้อยเกินไป อาจมีอาการปัสสาวะบ่อย กระหายน้ำ ปวดศีรษะ คลื่นไส้ มึนงง ถ้าหากเป็นลมควรนำส่งแพทย์ทันที
สำหรับผู้ป่วยที่จำเป็นต้องฉีดอินซูลินทุกวัน มักมีความกังวลใจในการพกพาอินซูลินว่าต้องใส่ในน้ำแข็งตลอดเวลา จริงๆแล้ว อินซูลินที่ยังไม่ได้เปิดใช้ หากเราเก็บไว้ที่ๆมีอุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส จะเก็บได้นานเท่ากับอายุที่ระบุไว้ข้างขวด แต่ถ้าเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้องหรือประมาณ 25 องศาเซลเซียลก็จะเก็บไว้ได้นาน 1 เดือน ส่วนอินซูลินที่เปิดใช้แล้วและเก็บอยู่ในปากกาฉีดอินซูลินสามารถเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้องได้นาน 30 วันเช่นกัน ส่วนอินซูลินแบบขวดที่เปิดใช้แล้วและเก็บไว้ในอุณหภูมิ2-8 องศาเซลเซียสจะเก็บได้นาน 3 เดือน นับจากวันเปิดขวด และเก็บได้นาน 30 วันหากเก็บไว้ในอุณหภูมิห้องนะคะ ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นต้องนำไปแช่ในช่องแข็ง และไม่ควรเก็บไว้ในอุณหภูมิสูงๆ อาจทำให้ยาเสื่อมคุณภาพและไม่ควรนำมาใช้ แม้แต่การเก็บอินซูลินไว้บริเวรฝาตู้เย็นก็ไม่ควรกระทำเนื่องจากมีอุณหภูมิที่ไม่คงที่
ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะฉีดอินซูลินเข้าสู่ร่างกาย บ้างก็ฉีดบริเวณ หน้าท้อง หน้าขาทั้ง 2 ข้าง สะโพก ต้นแขนทั้ง 2 ข้าง ก่อนจะทำการฉีดก็ควรเช็ดบริเวณนั้นให้สะอาดด้วยแอลกอฮอร์ และเมื่อดึงเข็มออกมาก็ให้ใช้สำลีกดเบาๆ ห้ามคลึงนะคะ เพราะอาจทำให้ยาถูกดูดซึมเร็วเกินไป ทำให้น้ำตาลตกได้คะ การฉีดอินซูลินไม่ควรฉีดซ้ำที่เดิมมากกว่า 1 ครั้งในระยะเวลา 1-2 เดือน ควรฉีดห่างจากจุดเดิมประมาณ 1นิ้ว เพี่อป้องกันการเกิดก้อนไตบริเวณที่ฉีดคะ
สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานนั้นไม่สามารถนำน้ำตาลในเลือไปใช้เป็นพลังงานได้เต็มที่เนื่องจากขาดอินซูลิน ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงผิดปกติ ทำให้ผู้ป่วยปัสสาวะบ่อย กระหายน้ำ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด เกิดโรคแทรกซ้อน อย่าง โรคติดเชื้อเป็นแผลหายยาก โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไต โรคตา อินซูลินจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานนะคะ
อย่ารอให้ร่างกายเราไม่สามารถผลิตอินซูลินได้ หันมาใส่ใจดูแลร่างกายของเราเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตับอ่อนแหล่งให้กำเนิดอินซูลินตามธรรมชาติ จะได้ไม่ต้องหาอินซูลินจากนอกร่างกายมาทดแทน…นะคะ











ฟิตเนส,คลาสนอนเผาผลาญพลังงาน







1)ตังกุย บำรุงเลือด บำรุงมดลูก ลดไขมันในเลือด สร้างภูมิคุ้มกัน
2)ตังเซียม บำรุงกำลัง ช่วยย่อยอาหาร บำรุงเลือด แก้อาการอ่อนเพลีย แก้อาการหย่อนสมรรถภาพทาง
3)โสมจีน บำรุงสมองส่วนกลาง ปรับสมดุลในร่างกาย สร้างความสมดุลของอวัยวะในร่างกาย เสริมสมรรถภาพทางเพศ
4)ปักคี้ บำรุงกำรังขับปัสสาวะ ลดอาการบวมน้ำ แก้อาการเหงื่อออกง่าย แผลเปื่อยเรื้อรัง ช่วยย่อยอาหาร แก้อาการอ่อนเพลีย ท้องร่วง ต้านเชื้อแบคทีเรีย แก้อาการอักเสบเสริมภูมิต้านทานให้ร่างกาย
5)ตังถั่งเช่า ฟื้นฟูสมรรถนะของไต เสริมภูมิต้านทานให้กับผู้ป่วยโรคไต ฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศ ลดความเสื่อมของเชลล์ในร่างกาย เพิ่มประสิทธิภาพของปอดและหลอดลม
6)ชวงเกียง แก้ปวดศรีษะ บำรุงโลหิตแก้โลหิตจาง แก้อาการปวดหัวจากเลือดคั่ง ขยายเส้นเลือดตีบ
7)แปะเจียก บรรเทาอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ขับลม ระงับปวดไขข้อ เหน็บชาตามตัว ปวดประจำเดือน
8)เก๋ากี้ ชะรอความชรา ควบคุมน้ำตาลในเม็ดเลือดแดง เสริมสร้างการทำงานของหัวใจ เสริมสร้วงระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย
9)เส็กตี่ บำรุงเลือด เสริมสร้างไขกระดูก ใช้บำบัดอาการประสาทอ่อน (ช่วงเอว)และหัวเข่าอ่อนล้าไม่มีเรี่ยวแรง ไอร้อนในจนมีไข้ โลหิตจาง วิงเวียน หูอื้อ หอบหืด หายใจขัดท้องผูก ปัสสาวะมีสีเข้มและบ่อยครั้ง และสำหรับ
10)กำเช่า ระบายความร้อน ขับพิษ ป้องกันและรักษาแผลในกระเพาะอาหารช่วยย่อยอาหาร แก้ไอขับเสมหะ ทำให้ชุ่มคอแก้อาการใจสั่น แก้ลมชัก พิษจากฝีแผล คอบวมอักเสบ หรือพิษจากยาหรืออาหาร โดยสามารถช่วยระบายความร้อนและขับพิษได้